โดยปกติแล้วการออกแบบอาคารจะมีการว่าจ้างบริการออกแบบอาคาร หรือสถาปนิกเป็นผู้ออกแบบ เพื่อให้ได้ตรงตามมาตรฐาน และมีคุณภาพให้มากที่สุด ดังนั้นการจ้างบริการออกแบบจะมีค่าบริการในส่วนของวิชาชีพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งต้องบอกเลยว่า ค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ จะเป็นค่าใช้จ่ายคนละส่วนกับค่าก่อสร้าง รวมทั้งค่าตกแต่งภายใน ดังนั้นไปดูกันเลยว่า ค่าใช้จ่ายของรูปแบบหลัก ๆ ที่คุณต้องเสีย มีค่าใช้จ่ายในด้านใดบ้าง 

บริการออกแบบอาคาร มีค่าใช้จ่ายในด้านใดบ้าง? 

1. ค่าใช้จ่ายที่คิดตามพื้นที่การออกแบบ : สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเป็นการคิดค่าออกแบบตามพื้นที่ของการออกแบบ ซึ่งจะเป็นการคิดค่าบริการด้วยการประเมินพื้นที่ โดยสถาปนิกจะสอบถามข้อมูลจากผู้ว่าจ้าง และนำข้อมูลเหล่านั้นไปวิเคราะห์และประเมินว่าอาคารก่อสร้างดังกล่าวมีพื้นที่กี่ตารางเมตร โดยปกติแล้วจะถูกนำไปใช้ในการออกแบบภายใน แต่ทั้งนี้จะมีหลายบริษัทที่นำมาคำนวณการออกแบบสำหรับสถาปัตยกรรมของตัวอาคารด้วยเช่นกัน และราคาของการออกแบบของแต่ละบริษัทจะมีความแตกต่างกันออกไป หากเป็นบริษัทชื่อดังและมีความชำนาญสูง อาจจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าบริษัทอื่น ๆ สักเล็กน้อย ซึ่งในส่วนนี้จะสามารถเลือกใช้บริการออกแบบอาคารได้ตามต้องการ 

2. คิดค่าใช้จ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ : ในส่วนของการคิดค่าใช้จ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการก่อสร้างนั้น จะเป็นการที่สถาปนิกวิเคราะห์ราคาค่าก่อสร้างจากประสบการณ์โดยการดูจากรูปแบบของอาคาร ขนาดของอาคาร รวมทั้งวัสดุที่เลือกใช้ในการก่อสร้าง เป็นต้น จากนั้นสถาปนิกจะนำราคาที่ได้มาคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ตามที่บริษัทกำหนดเอาไว้ ซึ่งในส่วนของการคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของแต่ละบริษัทจะมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นในส่วนนี้จะต้องพูดคุยในส่วนของการออกแบบ และรายละเอียดของราคาให้ดี เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน และป้องกันความผิดพลาดในภายหลังนั่นเอง 

3. คิดค่าใช้จ่ายแบบเหมา : สำหรับการคิดค่าใช้จ่ายแบบเหมา จะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของบริษัทนั้น ๆ อาจจะมีโปรโมชั่นให้ทุกท่านเลือกใช้บริการด้วยเช่นกัน ทั้งนี้หากพื้นที่ในการใช้งานออกแบบน้อยกว่าที่บริษัทกำหนดเอาไว้ บริษัทอาจจะคิดเป็นราคาขั้นต่ำ หรือราคาเหมาได้เช่นกัน 

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเป็นการคิดค่าใช้จ่ายของการเลือกใช้บริการออกแบบอาคาร ซึ่งต้องบอกเลยว่าในส่วนของการคิดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ จะมีความแตกต่างกันออกไปตามบริษัทที่คุณเลือกใช้งาน ดังนั้นคุณจะต้องคุยรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ให้ครบถ้วน และจะต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันกับบริษัท เพื่อที่จะได้รับงานตรงตามความต้องการ ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลังนั่นเอง